โควิด-19 ในปี 2025 สายพันธุ์ใหม่ที่น่าเฝ้าระวัง และสถานการณ์ในประเทศไทย

Covid 2025

โควิด-19 ยังคงอยู่กับเราในปี 2025

แม้เวลาจะล่วงเลยมาถึงปี 2025 สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ยังคงเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสำคัญและต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง การปรับตัวและเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับโรคนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตใหม่ ในขณะเดียวกัน การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคยังคงเป็นหัวใจสำคัญ และหนึ่งในทางเลือกจากธรรมชาติที่น่าสนใจคือ “น้ำขิง” สมุนไพรใกล้ตัวที่มีคุณประโยชน์มากมาย

สถานการณ์โควิด-19 ปัจจุบันในปี 2025

ข้อมูลล่าสุดจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ณ กลางปี 2025 ชี้ให้เห็นว่าโควิด-19 ยังคงเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพสาธารณะทั่วโลก ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ 2025 เป็นต้นมา กิจกรรมของไวรัส SARS-CoV-2 ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการตรวจพบเชื้อเป็นบวกเฉลี่ยอยู่ที่ 11% จาก 73 ประเทศที่รายงานข้อมูล ซึ่งนับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024

การเพิ่มขึ้นของอัตราการติดเชื้อนี้เห็นได้ชัดเจนในประเทศแถบภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแปซิฟิกตะวันตก ในขณะที่ประเทศในภูมิภาคแอฟริกา ยุโรป และอเมริกาเหนือ ยังคงรายงานระดับกิจกรรมของ SARS-CoV-2 ที่ค่อนข้างต่ำ โดยมีอัตราการตรวจพบเชื้อเป็นบวกอยู่ระหว่าง 2-3%

Covid 2025 Thailand

สายพันธุ์ใหม่ที่น่าเฝ้าระวัง: NB.1.8.1

สายพันธุ์ที่กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในปัจจุบันคือ NB.1.8.1 ซึ่งจัดเป็น Variant Under Monitoring (VUM) หรือสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวัง ถูกระบุครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2025 สายพันธุ์นี้เป็นลูกหลานของ XDV.1.5.1 ซึ่งสืบเชื้อสายมาจาก JN.1 อีกทอดหนึ่ง

ณ กลางเดือนพฤษภาคม 2025 NB.1.8.1 คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10.7% ของลำดับพันธุกรรมไวรัสที่มีอยู่ทั่วโลก เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 2.5% เมื่อสี่สัปดาห์ก่อนหน้า สายพันธุ์นี้มีการกลายพันธุ์เพิ่มเติมในโปรตีนหนาม (spike protein) หลายตำแหน่ง เช่น T22N, F59S, G184S, A435S, V445H และ T478I โดยเฉพาะการกลายพันธุ์ในตำแหน่ง 445 (V445H) ที่มีข้อมูลบ่งชี้ว่าอาจเพิ่มความสามารถของไวรัสในการจับกับตัวรับ hACE2 ของเซลล์มนุษย์ ซึ่งอาจส่งผลให้ไวรัสแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น

สถานการณ์ในประเทศไทย

สำหรับประเทศไทย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กำลังติดตามสถานการณ์ของสายพันธุ์ NB.1.8.1 อย่างใกล้ชิด โดยมีการคาดการณ์ว่าอาจกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในประเทศ ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2025 แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของผู้ป่วยโควิด-19

  • สถิติผู้ป่วยรายสัปดาห์ (18-24 พฤษภาคม 2025):
    • ผู้ป่วยใหม่: 53,563 ราย
    • ผู้เสียชีวิต: 5 ราย
  • ยอดผู้ป่วยสะสม (ตั้งแต่ต้นปี 2025):
    • ผู้ป่วยสะสม: 257,280 ราย
    • ผู้เสียชีวิตรวม: 52 ราย

พื้นที่ที่พบผู้ป่วยมากที่สุดในประเทศไทยยังคงเป็นกรุงเทพมหานคร ตามมาด้วยจังหวัดชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี และระยอง

Covid thailand 2025

ความสำคัญของระบบภูมิคุ้มกันในการป้องกันโควิด-19

ระบบภูมิคุ้มกันเปรียบเสมือนปราการด่านสำคัญของร่างกายในการต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ รวมถึงไวรัสโควิด-19 ระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงสามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการป่วย ป้องกันการติดเชื้อ หรือช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้นหากเกิดการติดเชื้อ

องค์ประกอบสำคัญของระบบภูมิคุ้มกัน ได้แก่:

  • เกราะป้องกันทางกายภาพ (Physical Barriers): เช่น ผิวหนัง เยื่อบุต่างๆ
  • เซลล์เม็ดเลือดขาว (White Blood Cells): ทำหน้าที่ตรวจจับและทำลายเชื้อโรค
  • แอนติบอดี (Antibodies): โปรตีนที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อต่อต้านเชื้อโรคจำเพาะ

การดูแลรักษาระบบภูมิคุ้มกันให้ดีอยู่เสมอเริ่มต้นจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ การพักผ่อนที่เพียงพอ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และการจัดการความเครียด

การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยสารอาหารจากธรรมชาติเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ได้รับความนิยม วิตามินซี วิตามินดี วิตามินบีรวม เห็ดสมุนไพร สารสกัดจากพืช และแร่ธาตุต่างๆ ล้วนมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

“น้ำขิง” สมุนไพรมากคุณค่าเพื่อการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

“ขิง” (Ginger) เป็นสมุนไพรที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ทั้งในการประกอบอาหารและทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในด้านการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่างๆ งานวิจัยทางการแพทย์ในปัจจุบันได้ค้นพบสารสำคัญหลายชนิดในขิงที่มีส่วนช่วยในการต่อสู้กับเชื้อโรคและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

สารสำคัญในขิง

สารออกฤทธิ์หลักในขิงคือ จินเจอร์รอล (Gingerol) ซึ่งเป็นสารประกอบฟีนอล (Phenolic compound) ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง จินเจอร์รอลและสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ ในขิงมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

ฤทธิ์ต้านไวรัสและการอักเสบ

  • ต้านไวรัส: มีการศึกษาพบว่าขิงมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ และมีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าน้ำขิงแก่ที่ต้มในน้ำเดือดนาน 30 นาที สามารถช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดแมคโครฟาจ (Macrophage) จับกินไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ดีขึ้น
  • ลดการอักเสบ: ขิงมีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่โดดเด่น สามารถช่วยลดการอักเสบในระบบทางเดินหายใจและส่วนต่างๆ ของร่างกาย งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าสารสกัดจากขิงสามารถแสดงฤทธิ์ต้านไวรัสได้ที่ความเข้มข้นต่างๆ (10%, 15%, 20%, และ 25%) การศึกษาในสัตว์ทดลองยังพบว่าสารสกัดจากขิงไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุงความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน แต่ยังมีศักยภาพในการลดการตอบสนองต่อการอักเสบอีกด้วย

ประโยชน์ต่อระบบทางเดินหายใจ

ขิงมีคุณสมบัติเป็น expectorant หรือยาขับเสมหะตามธรรมชาติ ช่วยละลายเสมหะและน้ำมูกที่เหนียวข้นในระบบทางเดินหายใจ ทำให้หายใจสะดวกขึ้น บรรเทาอาการคัดจมูกที่เกิดจากหวัด การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และไข้หวัดใหญ่ สารประกอบฟีนอลิกอย่างจินเจอร์รอลยังทำหน้าที่เป็นสารต้านการอักเสบในภาวะที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เช่น หลอดลมอักเสบ

 

วิธีเตรียมและการใช้น้ำขิงเพื่อสุขภาพ ทำได้ง่ายขึ้น ด้วยขิงผง จาก จินเจน

การเตรียมน้ำขิงเพื่อดื่มบำรุงสุขภาพและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อมีตัวช่วยดีๆ อย่าง ขิงผงสำเร็จรูป จาก จินเจน ที่ช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากขิงได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

ทำไมต้องเลือกขิงผง จินเจน?

  • สะดวก ชงง่าย: เพียงฉีกซอง เทลงในน้ำร้อน คนให้เข้ากัน ก็พร้อมดื่มได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาเตรียมขิงสด ต้ม หรือกรองกาก
  • รสชาติกลมกล่อม: จินเจน คัดสรรขิงคุณภาพดี ผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย ทำให้ได้น้ำขิงรสชาติอร่อย ดื่มง่าย เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว
  • คงคุณประโยชน์: แม้จะเป็นรูปแบบผง แต่จินเจนยังคงคุณค่าและสารสำคัญของขิงไว้อย่างครบถ้วน ทั้งจินเจอร์รอลและสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  • หลากหลายสูตร: จินเจน มีผลิตภัณฑ์ขิงผงหลากหลายสูตรให้เลือกตามความชอบ เช่น สูตรต้นตำรับ สูตรหวานน้อย หรือสูตรผสมน้ำผึ้ง เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

วิธีชงน้ำขิงผง จินเจน เพื่อสุขภาพ:

  1. เตรียมน้ำร้อนประมาณ 150-200 มิลลิลิตร (หรือตามปริมาณที่ระบุข้างซอง)
  2. ฉีกซองขิงผง จินเจน เทลงในแก้ว
  3. คนให้ละลายเข้ากันดี
  4. สามารถดื่มได้ทันที หรือจะเติมน้ำผึ้ง มะนาว เพื่อเพิ่มรสชาติและคุณประโยชน์ตามชอบ

การดื่มน้ำขิง จินเจน เป็นประจำทุกวัน เป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ในการดูแลสุขภาพ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง พร้อมรับมือกับเชื้อโรคและมลภาวะต่างๆ ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร บรรเทาอาการหวัดเบื้องต้น และลดการอักเสบ นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายอบอุ่น สดชื่น กระปรี้กระเปร่าอีกด้วย

มาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ยังคงสำคัญ

แม้จะมีตัวช่วยจากธรรมชาติอย่างน้ำขิง การป้องกันโควิด-19 ในปัจจุบันยังคงต้องอาศัยมาตรการป้องกันตนเองขั้นพื้นฐานร่วมด้วยเสมอ:

  • สวมหน้ากากอนามัย: เมื่ออยู่ในพื้นที่ปิด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก หรือบริเวณที่มีผู้คนหนาแน่น
  • ล้างมือบ่อยๆ: ด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย 20 วินาที หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70% ขึ้นไป
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า: โดยเฉพาะตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น
  • เว้นระยะห่างทางสังคม: หากเป็นไปได้
  • ตรวจ ATK เมื่อมีอาการ: หากมีอาการต้องสงสัย เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ มีเสมหะ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ควรตรวจหาเชื้อด้วย ATK ทันที
  • ปฏิบัติตนเมื่อผลเป็นบวก:
    • สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
    • งดทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น แยกของใช้ส่วนตัว
    • หากอาการไม่รุนแรง แพทย์อาจให้รักษาตัวที่บ้าน โดยกักตัวอย่างน้อย 5 วัน
    • รักษาตามอาการ เช่น รับประทานยาพาราเซตามอลเมื่อมีไข้ หรือยาแก้ไอเมื่อมีอาการไอ

เสริมภูมิคุ้มกันด้วยพลังธรรมชาติของ “น้ำขิง”

ในยุคที่โควิด-19 ยังคงเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของประชาชนในปี 2025 การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยวิถีธรรมชาติจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม น้ำขิง เป็นทางเลือกจากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการช่วยให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมต่อสู้กับเชื้อโรคและไวรัสต่างๆ

ประโยชน์ของน้ำขิง ที่ได้รับการยอมรับและมีงานวิจัยสนับสนุนมากมาย รวมถึงการช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ การต้านไวรัสและแบคทีเรีย การลดการอักเสบในร่างกาย การบรรเทาอาการหวัดและไอ และที่สำคัญคือเป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงเมื่อบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม

เริ่มต้นดูแลสุขภาพของคุณและคนที่คุณรักตั้งแต่วันนี้ด้วย น้ำขิง เครื่องดื่มจากธรรมชาติที่เปี่ยมด้วยคุณประโยชน์ ช่วยให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรง พร้อมรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 และโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ อย่าปล่อยให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอ่อนแอลง ในเมื่อ ประโยชน์ของน้ำขิง สามารถช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันตามธรรมชาติให้กับร่างกายของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืนด้วยพลังธรรมชาติของ น้ำขิง เพราะการป้องกันที่ดี ย่อมดีกว่าการรักษาเสมอ

อ่านข้อมูลผลิตภัณฑ์ ได้ที่ ผลิตภัณฑ์จินเจน

แหล่งอ้างอิง:

แชร์

ค้นหา